Sunday, May 10, 2015

-THE LAST-

            THE LAST
            สรุปการเรียนวิชา App jp ling และการทำบล็อกทั้งหมดที่ผ่านมา
           
   ★   App jp ling

รู้สึกว่าเป็นวิชาที่ได้รู้อะไรใหม่ๆเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นที่เรียนมา บางเรื่องเจอมาหลายครั้งก็ไม่เคยสงสัยเลย แต่พึ่งได้มารู้ความแตกต่างหรือข้อสังเกตก็ตอนเรียน เช่น

 เวลาตั้งคำถามมักใช้ 無標ดีๆถาม เช่น ภูเขานี้สูงเท่าไหร่ ห้องนี้กว้างเท่าไหร่ how old are you
 ได้เรียนรู้วิธีแนะนำตัวหลายๆแบบ การแนะนำตัวที่ดีอย่างเช่น การใส่เรื่องราวลงไป ใส่ดราม่า ใส่ข้อดีของตัวเองลงไปให้น่าสนใจและให้ผู้ฟังจำจดจำได้ รู้สึกว่าเรามีประโยชน์สำหรับเขา ผู้ฟังฟังแล้วได้อะไร และคนฟังมักสนใจฟังเรื่องしっぱいมากกว่า เรื่องการประสบความสำเร็จ
  คนญี่ปุ่นจะตั้งใจฟังการแนะนำตัวของคนอื่นและอ้างอิงถึงเรื่องที่มีคนพูดไปก่อนนี้ ถ้าเราทำได้จะดูเหมือนใส่ใจและตั้งใจฟัง ทำให้คนญี่ปุ่นรู้สึกดี
  คนญี่ปุ่นชอบใช้นามมากกว่ากริยา ex.ストレスの時はคนไทยชอบใช้กริยามากกว่านาม ex.ストレスがたまったら
  การอธิบายให้ฟังง่าย ดู反応ของผู้ฟัง แบ่งเรื่องยากๆมาทีละนิดแล้วค่อยขยายลองจินตนาการว่าถ้าเราเป็นผู้ฟังจะเข้าใจมั้ย
 あのうพูดเมื่อกำลังเลือกคำที่จะใช้ คิดวิธีในการสื่อสารกับผู้ฟัง พูดเกริ่นก่อนเริ่มบทสนทนา ต้องมีผู้ฟังเสมอえっとพูดคนเดียวได้ เช่นพูดในใจ
 กับคนไม่สนิท หรือสถานการณ์เป็นทางการ คนญี่ปุ่นจะพูดえ。。มากกว่าえっと
♥ そして+結果
  なんか+みたい、よう、よく分からない、気がする、っていう感じ or   เรื่องที่พูดลำบาก
  ส่งเมล์ให้คนไม่รู้จักหรือพึ่งรู้จัก ไม่นิยมใช้ おはようございます、こんにちは ควรจะお忙しいところ申し訳ございません

            เรื่องที่ชอบที่สุดในการเรียนคือวิธีการเขียนเมล์หาคนญี่ปุ่น เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก อย่างตัวเราเองก็ส่งเมล์หาคนญี่ปุ่นบ่อยๆ พอได้มาเรียนก็รู้สึกดีที่จะได้เขียนให้ดีขึ้นและไม่ทำอะไรที่เป็นการเสียมารยาทต่ออีกฝ่าย

  Blog

内省
            รู้สึกว่าตัวเองมีความกระตือรือร้นขึ้นในการเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นหลังจากทำบล็อก เช่นเจออะไรน่าสนใจก็จะจดโน้ตไว้แล้วนำมาเขียน ทั้งที่เจอในชีวิตประจำวัน แล้วก็ในห้องเรียน เป็นคนรู้จักสังเกตมากขึ้น เช่นเวลาอ่านภาษาญี่ปุ่น เจอประโยคอะไรก็จะลองดูรูปประโยคว่าทำไมใช้แบบนี้ เวลาคุยกับคนญี่ปุ่นก็สังเกตมากขึ้น แล้วก็จำมาใช้ อย่างตอนสัมภาษณ์คนญี่ปุ่นในงานโปรเจควิชาconver  คนญี่ปุ่นพูดว่าなんか。。。みたいな感じก็จำได้ พอมาเรียนเรื่องนี้ในห้องอีกทีก็นึกถึงประโยคนี้เลย แต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้พูดถึงเรื่องนี้ในบล็อก
            หลังจากได้ลองทำtaskหลายๆอย่างและได้เขียนบล็อก คิดว่าจุดที่ตัวเองถนัดคือการพูดมากกว่าการเขียน อย่างเวลาพูดเราสามารถพูดสบายๆได้ ไม่รู้คำช่วยก็ละไว้ก่อนได้ แต่การเขียนจะต้องครบถ้วนและถูกต้อง อย่างเวลาเขียนบล็อกแล้วมีประโยคตัวอย่างก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าคำช่วยนี้ใช้กับประโยคนี้ได้รึเปล่า คำนี้ใช้อธิบายแบบนี้ได้มั้ย ทำอย่างนี้ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าคิดประโยคในหัวแล้วเขียนลงไปเลย (ยกเว้นว่าเป็นประโยคง่ายๆที่มั่นใจ) แต่ข้อดีก็คือช่วยให้เรารู้จักเรียนรู้ ได้ฝึกค้นหาด้วยวิธีใหม่ๆ ใช้เว็บต่างๆหรือเครื่องมือต่างๆที่อาจารย์ให้ซึ่งมีประโยชน์มากโดยเฉพาะninjal และในระหว่างทางที่ค้นหาจะเจออะไรอีกมาก เช่นถ้าหาในกู้เกิ้ล จะเจอเรื่องราวน่าสนใจบ้าง ก็เข้าไปอ่าน รูปประโยคใหม่ๆบ้าง ก็จะจำไว้ว่าแบบนี้ใช้ได้นะ รู้สึกว่าเป็นการเหนื่อยที่คุ้มค่า :D
            สุดท้ายจากการเรียนและทำบล็อก รู้สึกว่าภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่เซนซิทีฟและละเอียดมาก มีเรื่องต่างๆที่ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะในการจะพูดได้ใกล้เคียงเจ้าของภาษาที่สุด หากอย่างเก่งต้องหมั่นสังเกต หาความรู้เพิ่มเติม และฝึกฝนเยอะๆทั้ง input output  แล้วก็ต้องค่อยๆเรียนรู้ไป ไม่ควรคิดว่าตัวเองเก่งแล้วเพราะคนที่คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ใช้ถูกแล้วจะเปิดรับความรู้ใหม่ๆได้ยาก แล้วอะไรที่ผิดก็จะผิดอยู่อย่างนั้น (แต่คิดว่าเรากับเพื่อนๆไม่น่ามีใครคิดว่าตัวเองเก่งแล้วเพราะเราได้เรียนภาษาญี่ปุ่นในขั้นลึกไม่ใช่แค่ไวยากรณ์และทฤษฎี แล้วทุกคนน่าจะรู้สึกเหมือนกันว่าภาษาญี่ปุ่นมีอะไรให้เซอร์ไพรส์เยอะมากก แบบอ้าวอันนี้ไม่ควรใช้เหรอ อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้ สรุปเรารู้อะไรบ้างเนี่ย อะไรแบบนี้555)
การบรรลุวัตถุประสงค์ของ blog
            คิดว่าบรรลุวัตถุประสงค์พอสมควร อย่าง目標ที่ตั้งไว้คืออยากเรียนรู้コロケーション
ที่น่าสนใจ 4 : 何の声これ? 
                5 : この声どういう意味? 
ที่พบในชีวิตประจำวัน 2 : สติมาปัญญาเกิด 
                                 12 : !?
                                 13 : !!!
ที่พบระหว่างเรียน  3 : 火の鳥 - 'เกิด'ใหม่  
                            7 : น่าเสียดาย 
                            8 : 「働く」VS「勤める」 
                           11 : きちんと VS ちゃんと
ที่อยากรู้เพิ่มเติม 6 :「たち」?それとも「ら」?
                         9 : สาระแน
            ก็ทำได้ครบเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ส่วนที่ทำได้ไม่ดีก็คือ ไม่สามารถอัพบล็อกได้อย่างสม่ำเสมอ และน่าจะเขียนเรื่องกระบวนการเรียนรู้ของตัวเองให้มากกว่านี้ อย่างบล็อกครึ่งแรกก่อนมิดเทอมคิดว่าแก้ไม่ทันแล้วเพราะจำตอนทำไม่ค่อยได้แล้ว ก็เลยพยายามเขียนว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างในบล็อกครึ่งหลังมิดเทอมแทน แล้วก็คิดว่าถ้าเขียนประสบการณ์ของตัวเองเพิ่มไปอีกก็น่าจะดี อย่างเช่นสองบล็อกสุดท้าย เรื่อง 12 : !? กับ 13 : !!!ได้เล่าเรื่องของตัวเองที่เจอมาจริงๆก็รู้สึกสนุกดี น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ได้อ่านด้วย ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตก็คิดว่าจะมาอัพประสบการณ์ตัวเองลงบล็อกต่อถ้ามีเวลาค่ะ
            จากการทำบล็อกนี้ทำให้มีความกระตือรือร้นในการเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่คิดว่าถึงจะไม่ต้องทำบล็อกแล้ว ก็จะพยายามรักษาความกระตือรือร้นในการเรียนภาษาญี่ปุ่นนี้ต่อไป เวลาเจอコロケーションหรือบทสนทนาที่น่าสนใจก็จะพยายามเรียนรู้และจดจำไว้ เวลาพูดคุยกับคนญี่ปุ่นก็จะพยายามสังเกตวิธีการใช้คำต่างๆไปพร้อมๆกับการเรียนรู้มารยาทของคนญี่ปุ่นด้วย เพราะในชีวิตจริงเวลาเราสื่อสารกับคนญี่ปุ่นมันไม่ใช่แค่เรื่องของไวยากรณ์ แต่มันรวมถึงมารยาทและความใส่ใจต่อผู้ฟังที่เราแสดงออกด้วย ว่าเค้าจะอยากคุยกับเราต่อมั้ย จะรู้สึกดีกับเราหรือเปล่า ยิ่งถ้าอยากเป็นล่ามหรือทำอาชีพที่ต้องติดต่อกับคนญี่ปุ่นยิ่งสำคัญ ก็เลยคิดว่าอยากจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากวิชา App jp ling  และจากการทำบล็อกนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปด้วยค่ะ 

No comments:

Post a Comment